หุ้นไทยไปต่อหรือพอแค่นี้- ต่างชาติขาย 1.6 แสนล้านบาท คาดตลาดปรับสมดุลย์

ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งขึ้นเล็กน้อย จากดอลลาร์อ่อนคลายกังวลดอกเบี้ยเฟด

ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง หวังมาตรการรัฐบาลกระตุกเศรษฐกิจฟื้น

ตลาดหุ้นไทย (SET Index) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 6 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ปิดที่ 1,438.45 จุด ใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยนับตั้งแต่เดือน ส.ค. ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องถึง 138 จุด หรือ -8.77% แม้ไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จหลังจากที่เว้นว่างเป็นเวลาหลายเดือน พร้อมกับเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในทันที แต่นักลงทุนต่างชาติกลับยังคงเทขายหุ้นไทยมาตลอด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันศุกร์ 6 ต.ค.66

โดยเฉพาะเดือน ก.ย. นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยเป็นเดือนที่แปดติดต่อกัน 22,436 ล้านบาท และหากรวมตั้งแต่ต้นปี 66 ขายสะสมสุทธิ 1.6 แสนล้านบาท นอกจากนี้ฝั่งตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนต่างชาติก็ยังคงเทขายเช่นเดียวกัน ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 66 ขายไปแล้ว 1.57 แสนล้านบาท รวมกว่า 9 เดือนปีนี้ เงินทุนไหลออกไทยกว่า 3 แสนล้านบาท

ด้านเงินบาทไทยมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับการไหลออกของเม็ดเงินต่างชาติ และการถูกดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่ามากขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดตลาดอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 36.91 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ต่างจากในช่วงต้นปี 66 ที่เงินบาทแข็งค่ามากถึงระดับ 32.56 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้การประชุมล่าสุดในเดือนก.ย. 2566 ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด (FED) มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ต่อปี โดยส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปี 66 และค้างดอกเบี้ยไว้ระดับสูงที่ยาวนานขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ หรือ บอนด์ยีลด์ (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่ามากขึ้น

ความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ในเช้าวันที่ 9 ต.ค.66

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส อธิบายว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ปรับตัวลงแรง เป็นผลมาจากบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯที่พยายามปรับสูงขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ไทยต่ำกว่าของสหรัฐฯ นักลงทุนจึงขายบอนด์ไทยไปซื้อบอนด์สหรัฐฯมากขึ้น เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่า

สิ่งที่ลามมาถึงบ้านเรามันคืออะไร พอบอนยีนด์สหรัฐฯขึ้น มันเกิดอาการเปรียบเทียบ ว่าบอนด์ยีลด์บ้านเขากับบอนด์ยีลด์บ้านเราเนี่ย แก๊ป (Gap) มันถ่างขึ้น เวลาแก๊ปมันถ่างขึ้น ก็ต้องขายตัวที่ผลตอบแทนต่ำแล้วไปซื้อตัวที่ผลตอบแทนสูง อาการแบบนี้ก็เลยเห็นการขายบอนด์ออกมา พอขายบอนด์ออกมาเสร็จเงินไหลออก พอเงินไหลออกปุ๊ปเงินบาทอ่อนค่า พอเงินบาทอ่อนค่า คนที่อยู่ในตลาดทุนก็ต้องคิดว่าถ้าบาทอ่อนแบบนี้เนี่ย ถ้าผมเป็นฝรั่งกล้าเอาเงินเข้ามาไหม ไม่กล้าหรอก”นายเทิดศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ตัวเร่งความผันผวนของการตลาด คือ การซื้อขายด้วยการใช้โปรแกรมที่มากถึง 35% และสัดส่วน 1 ใน 3 ของจำนวนนี้เป็นระบบส่งคำสั่งซื้อขายที่มีความถี่สูง (High Frequency Trading) เมื่อหุ้นขึ้นไปถึงจุด ๆ หนึ่งในทางเทคนิค ก็มักเกิดแรงขายตามลงมา ขณะเดียวกันอีกสิ่งที่เป็นตัวเพิ่มความผันผวนให้กับตลาด คือ การใช้มาร์จิ้น

อย่างไรก็ตามความผันผวนที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นการปรับสมดุลย์ของการตลาดการเงิน ซึ่งจะใช้เวลาไปอีกสักระยะหนึ่ง

ซึ่งตรงนี้ถ้าจะดูปลายทาง เมื่อไหร่ที่เห็นเงินบาทเริ่มนิ่ง ตรงนั้นแหละแปลว่าการปรับสมดุลย์ของตลาดการเงินเริ่มที่จะจบแล้ว อิมแพคของตลาดจากตรงนั้นไปมันจะเป็นการสะท้อนภาพในเชิงพื้นฐาน fundamental ได้เต็ม ๆ มากขึ้น”นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ รองกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า ภาวะตลาดในช่วงนี้ เป็นโอกาสที่ดีกับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นและถือได้ในระยะยาว โดยให้เป้าดัชนีปี 66 ที่ 1,524 จุด และแนวรับ 1,430 จุด ซึ่งคาดว่าเป็นจุดต่ำสุดแล้ว อีกทั้งปัจจัยลบในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังไม่มีอะไรที่น่ากังวลอะไร นอกจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งจะทำให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกิดความผันผวน คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้

พร้อมอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล! จ่อส่งเครื่องบินรับเมื่อน่านฟ้าเปิด

สภาพอากาศวันนี้ ฝนถล่ม 54 พื้นที่ เหนือ-อีสาน ฝนตกหนักถึงหนักมาก!

เปิดปฏิทินวันหยุดตุลาคม 2566 เช็กวันหยุดราชการ-วันสำคัญ

 หุ้นไทยไปต่อหรือพอแค่นี้- ต่างชาติขาย 1.6 แสนล้านบาท คาดตลาดปรับสมดุลย์

By admin

Related Post